วันอาทิตย์ที่ 18 พฤษภาคม พ.ศ. 2551

นิทานของพระจันทร์


นิทานเรื่องนี้ไม่ได้แต่งเองนะคะ แต่อ่านแล้วประทับใจทั้งที่ไม่ทราบว่าใครแต่ง ต้องขอโทษเจ้าของเรื่องด้วยที่นำมาโพสโดยไม่ได้รับอนุญาต อ่านเรื่องนี้แล้วมันอิ่มเอมใจและมีความสุขจริงๆ


...พระจันทร์เฝ้าถามตัวเองเสมอว่า...

เมื่อยามที่เธอลับฟ้าไป...อีกฝากของแสงสว่างที่โผล่ขึ้นมาแทนที่นั้นเป็นใครกัน...

จะเป็นพระจันทร์แบบเธอหรือเปล่า....

หรือจะเป็นดวงดาวดวงหนึ่ง...

เธอสงสัยและอยากรู้เสมอว่าเค้าคนนั้นคือใคร....

และเมื่อความมืดมิดเข้าครอบงำอีกครั้ง...

ทุกอย่างดูเงียบสงบ...ทุกสิ่งหยุดเคลื่อนไหว...

มีเพียงสายลมที่ไม่เคยหลับอยู่เป็นเพื่อนคุยกับพระจันทร์เสมอ...

ในคืนนี้พระจันทร์ตัดสินใจถามเพื่อนรักถึงแสงลึกลับนั่น....

"สายลมเพื่อนรัก...ฉันมีเรื่องอยากจะถามเธอ...

เธอเป็นผู้ที่ไม่เคยหลับใหล...และไปได้ทุกแห่งหน...

เธอรู้ไหมว่าเมื่อฉันลับฟ้าไป...ใครกันที่ให้แสงสว่างแทนฉัน"

แน่นอนว่าคำถามนี้...ไม่ยากเลยที่สายลมจะตอบเพราะสายลมมีอยู่ทุกที่ทุกแห่งหน...ไม่ว่าจะกลางวันหรือกลางคืน...สายลมจึงรีบตอบกลับไปในทันที

"พระจันทร์เพื่อนรัก...แสงสว่างนั่นใช่ใครที่ไหน...เค้าคือผู้ให้ชีวิตแก่สรรพสิ่งบนโลก...เค้าทำให้โลกมีชีวิตชีวา...มีสีสันให้เห็น...เค้าทำให้ทุกอย่างบนโลกดูสดใส"

พระจันทร์ข้องใจในคำตอบของเพื่อนรัก


"แล้วสีสันสดใสมันเป็นยังไงกัน?"

สายลมรีบตอบอย่างทันที…โดยไม่ทันได้นึกใส่ใจความรู้สึกของเพื่อนรัก

"ก็ไม่มืดมิดเหมือนตอนนี้ไงหล่ะ...."

ไม่ทันที่จะได้รู้ว่าเค้าคนนั้นเป็นใคร...สายลมก็พัดไปที่อื่นซะก่อน

....พระจันทร์คิดถึงคำว่า...สีสันสดใส...ว่ามันคืออะไร...มันทำให้บนโลกมีความสุขได้จริงๆเหรอ...

ขณะที่พระจันทร์...กำลังครุ่นคิดอยู่...เธอก็ได้ยินเสียงบางอย่าง

และนั่นก็คือ...ต้นหญ้าบนภูเขา

"เอ๊ะ...นี่เธอไม่นอนหรือ..."

พระจันทร์ถามต้นหญ้าต้นน้อยนั้น....

"ฉันนะเหรอ...ก็นอนไม่หลับนะสิ...เธอบ่นพึมพำ...ฉันเลยนอนไม่หลับเลย"

"เอ่อ....ขอโทษนะ"

พระจันทร์ขอโทษต้นหญ้าน้อยด้วยความจริงใจ

และเธอก็ตัดสินใจถามถึงแสงนั่นอีกครั้ง....

"ต้นหญ้า...ฉันมีเรื่องอยากจะถามเธอ....เธออยู่บนโลกนี้ทั้งกลางวันและกลางคืนเลยใช่ไหม"

"ก็ใช่นะสิ"

"แล้วตอนกลางวันเนี่ย....ใครกันเหรอที่ให้สีสันกับโลกใบนี้"

ต้นหญ้าคิดอยู่พักหนึ่งก็ตอบว่า

"อ้อ....เค้าคือพระอาทิตย์....เค้าเป็นผู้ให้ชีวิตกับต้นไม้ใบหญ้าอย่างฉัน...เค้าทำให้ทุกสิ่งทุกอย่างบนโลกดำเนินไป..."

ต้นหญ้าบรรยายความดีต่างๆนาๆของพระอาทิตย์ให้กับพระจันทร์ฟัง....

พระจันทร์เองเมื่อได้ยินก็ทำให้เธอหลงรักพระอาทิตย์เข้าอย่างจัง...และบอกกับตัวเองว่า...สักวันเธอจะต้องเจอกับพระอาทิตย์ให้ได้

และแล้วค่ำคืนนี้ก็ผ่านพ้นไป....พระอาทิตย์ก็โผล่ออกมาทำหน้าที่ของตัวเองเช่นทุกวัน..โดยไม่รู้เลยว่าอีกฝากของแสงสว่างนั่นกำลังพร่ำเพ้อรำพันถึงเขาอยู่....ดูเหมือนว่าเค้าไม่มีทางจะรู้เลยด้วยซ้ำไป...ได้แต่ก้มหน้าก้มตาทำหน้าที่ของตัวเองไปเช่นเคย.....

ด้านพระจันทร์เมื่อความมืดกลับมาอีกครั้งเธอก็ออกมาทำหน้าที่เช่นเคย...เธอในวันนี้เธอตัดสินใจที่จะไม่ลับขอบฟ้าไป...ถ้าหากเธอไม่ได้เจอกับพระอาทิตย์ที่เป็นที่รัก....

เมื่อเวลาผ่านไป...แสงแห่งอรุณก็กำลังโผล่ขึ้นมาอีกฟากของขอบฟ้า...พระจันทร์ฝืนตัวเองที่จะอยู่รอดูผู้เป็นที่รัก....แต่ทว่ามันจะสำเร็จไปได้อย่างไรกัน....

ค่ำคืนแห่งความเจ็บปวดเข้าเกาะกุมหัวใจของพระจันทร์...เธอเจ็บปวดและแสนจะทรมานที่ไม่สามารถจะพบผู้เป็นที่รักได้...แต่นั่นก็คือความจริง...ที่ต้องเป็นไปตามธรรมดาอยู่แล้ว...ทำให้แต่ละค่ำคืนมีแต่ความมืดมิด...เพราะพระจันทร์ไม่สามารถออกมาทำหน้าที่ของตัวเองได้...ได้แต่จมอยู่กับความทุกข์ที่เต็มหัวใจ...หลับใหลอยู่ในห้วงแห่งรัตติกาลหลีกเหลี่ยงที่จะพบปะใครๆ...ทุกค่ำคืนจึงมืดสนนิดเดือดร้อนไปถึงท้องฟ้าผู้ยิ่งใหญ่...ต้องมาจัดการปัญหานี้....

"พระจันทร์เอ๋ย...เหตุใดเจ้าจึงไม่ทำหน้าที่ของตัวเองเล่า"

"ข้าแต่ท้องฟ้าผู้ยิ่งใหญ่...ข้าน้อยทรมานจิตใจยิ่งนักจนมิอาจจะทำอะไรได้...ข้าน้อยรู้สึกหมดหวัง...ตัวข้าน้อยนี้ช่างไม่มีความสามารถเลย"

"พระจันทร์เอ๋ยเจ้ามีปัญหาสิ่งใดก็จงเล่าแก่ข้าฟังเถิด...อย่าเก็บไว้แต่เพียงผู้เดียวเลย"

พระจันทร์ได้ยินเช่นนั้นก็เล่าเรื่องทุกอย่างให้ท้องฟ้าฟัง

"โธ่เอ๊ย...พระจันทร์น้อยเจ้าช่างอ่อนไหวเหลือเกิน...การที่เจ้าไม่สามารถพบกับพระอาทิตย์ได้มันเป็นธรรมดาอยู่แล้ว...เจ้าจงคิดดูให้ดีทุกสิ่งถูกกำหนดไว้แล้ว...เจ้าอาจจะเจ็บปวดไปบ้าง...แต่หากลองคิดดูอีกด้าน...อย่างน้อยเจ้ากับพระอาทิตย์ก็อยู่บนท้องฟ้านี้เหมือนกัน...ถึงแม้เจ้าจะได้เห็นเพียงแค่แสงรำไรของเค้า...ได้เห็นเค้าเพียงไกลๆ...ก็ใช่ว่าไม่มีเค้าอยู่เจ้ายังสัมผัสและรับรู้ได้ว่ามีเค้าอยู่บนท้องฟ้านี้เช่นกัน...ถึงแม้จะไม่ได้พบกับเค้าใช่ว่าเจ้าจะรักเค้าไม่ได้หนิ...แล้วเจ้ายังจะเศร้าอีกเหรอเปล่า.."

"ข้าแต่ท้องฟ้าผู้ยิ่งใหญ่ที่ท่านกล่าวมานั่นถูกต้องแล้ว...แต่ทว่าพระจันทร์อย่างข้าไม่สามารถทำให้โลกสดใสได้"

"พระจันทร์น้อยเอ๋ย...ความสามารถของเจ้าไม่ได้ต่างจากพระอาทิตย์เลยสักนิด...เพราะแสงแห่งเจ้าก็คือแสงแห่งพระอาทิตย์...ที่เจ้ามีแสงสว่างได้ก็เพราะแสงของพระอาทิตย์เพราะฉะนั้นความสามารถของเจ้าไม่ได้ต่างจากพระอาทิตย์เลยนะ...."

พระจันทร์ได้ยินดังนั้นก็ดีใจ...และภูมิใจที่เธอได้รักพระอาทิตย์ดวงนี้

"พระจันทร์เอ๋ยทีนี้เจ้าจะกลับไปทำหน้าที่ของตัวเองได้หรือยังหละ..."

"ข้าน้อยรู้แล้วว่าจะต้องทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุด...ถึงแม้ว่าจะไม่มีทางได้พบกับพระอาทิตย์ก็ตามแต่ข้าน้อยรู้เสมอว่าพระอาทิตย์จะอยุ่กับข้าน้อยเสมอ...เพราะแสงของข้าน้อยก็คือแสงแห่งพระอาทิตย์นั่นเอง..."

....หลังจากนั้นพระจันทร์ก็ตั้งอกตั้งใจทำหน้าที่ของตัวเองเสมอมา...แต่ทว่า..ก่อนลับขอบฟ้า...เธอจะเฝ้ามองอีกฟากของขอบฟ้าเสมอ...และดีใจทุกครั้งแม้จะได้เห็นเพียงแค่แสงรำไรของผู้เป็นที่รักก็ตามที....

ไม่มีความคิดเห็น: